รำมะนาด หรือโรคปริทันต์ คืออะไร - พบกับทุกสิ่งที่คุณควรรู้ได้ที่นี่

รำมะนาด

รำมะนาด หรือศัพท์ทางทันตกรรมที่เรียกว่า โรคปริทันต์ เป็นโรคของโครงสร้าง และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue) รอบๆ ฟัน เป็นโรคที่พบได้บ่อย และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการสูญเสียฟันธรรมชาติ รำมะนาด หรือโรคปริทันต์เกิดขึ้นจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบติดเชื้อที่เนื้อเยื่อปริทันต์รอบๆ ฟัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพของฟันและช่องปากของคุณ การดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ดีด้วยการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ และการขูดหินปูนทุก 6 เดือน สามารถป้องกันรำมะนาด หรือโรคปริทันต์ได้

สารบัญเนื้อหา

โรครำมะนาด เกิดจากอะไร

โรครำมะนาด เป็นหนึ่งในอาการเหงือกอักเสบที่มีความรุนแรง มีสาเหตุเริ่มต้นจากการทำความสะอาดฟันและช่องปากไม่ดีพอจนทำให้เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆ ที่ก่อโรคได้ ยกตัวอย่าง เช่น

คราบจุลินทรีย์ และแบคทีเรีย

แผ่นฟิล์มเหนียวๆ ซึ่งประกอบไปด้วย แบคทีเรีย เศษอาหาร และของเสีย ซึ่งหากไม่ได้รับการกำจัดอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถสะสมและกระตุ้นการตอบสนองของร่างกาย ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อตามมาได้

สุขภาพช่องปากไม่ดี

กิจวัตรประจำวันอย่างการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และการใช้ไหมขัดฟันก่อนนอน นับเป็นการป้องกันโรครำมะนาดที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นการขจัดคราบจุลินทรีย์ และแบคทีเรียซึ่งเป็นปัจจัยก่อโรคที่สำคัญ นอกจากนั้นคุณควรเข้ารับการขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนอีกด้วย

ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ

  • การสูบบุหรี่ – บุหรี่ลดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกัน และขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังเหงือก และเนื้อเยื่อปริทันต์ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรครำมะนาดมากยิ่งขึ้น
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน – การตั้งครรภ์ วัยหมดประจำเดือน (Menopause) และวัยรุ่น สามารถเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อของเหงือก
  • โรคประจำตัวบางอย่าง – เบาหวาน, การติดเชื้อ HIV, โรคที่ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
  • ยา – ยาบางชนิดเช่น ยากันชัก ยาควบคุมภูมิคุ้มกัน ยาลดความดัน Dilantin สามารถทำให้เหงือกเติบโตมากผิดปกติ และยากลุ่มที่สามารถทำให้ปากแห้ง

อาการของโรครำมะนาด

สำหรับ​อาการของโรครำมะนาดนั้น สามารถ​แบ่งออกตามลักษณะ​และความรุนแ​ร​งของ​โรคได้ 4 ระยะ ดังนี้

 

ระยะ​ที่​1: เหงือกเริ่มอักเสบมีสีแดงขึ้น ขอบเหงือกบวมไม่สนิทกับคอฟัน อาจมีเลือดออกขณะแปรงฟัน ในระยะนี้ยังสามารถ​ทำความสะอาด​และกำจัดคราบแบคทีเรีย​ได้ด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย

 

ระยะที่2: เหงือกอักเสบจะบวมและมีสีแดงคล้ำขึ้น ตัวเหงือกเริ่มแยกตัวจากฟัน ร่องเหงือกรอบฟันจะลึกขึ้น​ เนื่องจากมีการสะสมของแผ่นคราบแบคทีเรีย​มากขึ้น และไม่สามารถ​กำจัดได้ด้วยการแปรงฟัน ในระยะนี่จะเริ่มมีการทำลายในส่วนของกระดูกหุ้มรากฟัน จึงจำเป็นต้องไปพบคุณหมอ ​เพื่อขูดหรือกำจัดหินน้ำลายออก

 

ระยะที่3: หินน้ำลายจะจับตัวหนาขึ้น และขยายไปตามรากฟันลึกลงไปในเหงือก ในระย​ะนี้กระดูกหุ้มรากฟันจะถูกทำลาย เหงือกจะร่น ฟันเริ่มโยกเจ็บปวดขณะเคี้ยวอาหาร ทำให้อาจมีเลือกออก มีหนอง หรือมีกลิ่นปากรุนแรง​ได้

 

ระยะ​ที่​4: ระยะนี้เป็น​ระยะที่มีอาการรุนแรง​ที่สุด โดยมักจะเกิดฝี หรือหนองที่บริเวณเหงือก​ ทำให้​เหงือก​บวม และอาจบวมขยายไปจนถึงใบหน้า คนไข้จะรู้สึกปวดฟันมาก และฟันโยกมากขึ้นจนไม่สามารถ​เคี้ยวอาหารได้ และต้องถอนฟันไปในท้ายที่สุด

ตัวอย่าง โรครำมะนาด

วิธีการวินิจฉัยโรครำมะนาด

สำหรับการวินิจฉัยโรค​รำมะนาดนั้นก่อนอื่นทันตแพทย์​จะทำการ ซักประวัติของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัวและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน คนไข้ที่มีน้ำลายน้อย หรือพฤติกรรมการสูบบุหรี่เป็นต้น

 

จากนั้นจึงจะทำการตรวจสุขภาพช่องปาก เพื่อประเมินว่าเหงือกมีอาการอักเสบในตำแหน่งใดบ้าง รวมถึงการตรวจประเมินร่องลึกปริทันต์ เพื่อประเมินปริมาณกระดูกรอบๆ ว่าหินน้ำลายได้สร้างความเสียหายให้กับกระดูกรองรับรากฟันมากน้อยแค่ไหน ​

 

ในขั้นตอนสุดท้ายของการวินิจฉัย คุณหมอจึงจะทำการถ่ายภาพ X-ray เพื่อประเมินสภาพกระดูกรองรับรากฟันที่เหลืออยู่โดยละเอียด เพื่อวางแผน​การรักษา​ต่อไป

สามารถ​รักษาให้หายขาดได้หรือไม่

​เราสามารถ​รักษา​โรครำมะนาดได้ 2 รูปแบบ​ คือ

การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด และต้องเข้ารับการผ่าตัด โดยการรักษา​แต่ละแบบมีรายละเอียด​ ดังนี้

การรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด

  • การขูดหินปูน​

การขูด​หินปูน​เป็น​การกำจัด​คราบสกปรก​ หรือหินน้ำลาย​ที่เกาะ​อยู่​บริเวณ​ร่องเหงือก​และใต้​เหงือก​ที่ลึกลงไป เหมาะกับการรักษา​โรครำมะนา​ดในระยะที่ 2 ที่มีการสะสมของคราบแบคทีเรีย​ที่ไม่สามารถ​กำจัดออกได้ด้วยการแปรงฟัน

 

  • การเกลารากฟัน

สำหรับการรักษา​ด้วยการเกลารากฟันนี้เป็นการกำจัดคราบหินน้ำลายและคราบจุลินทรีย์ที่ยึดติดแน่นลึกลงไปในผิวรากฟันออก เพื่อให้เนื้อเยื่อเหงือกสามารถกลับมายึดติดแน่นติดกับผิวฟันได้เหมือนเดิม ซึ่งโดยปกติ​แล้วการเกลารากฟันจะต้องฉีดยาชาร่วมด้​วย

การรักษา​ด้วยการผ่าตัด

หากคุณหมอพิจารณาแล้วว่ามีการละลายของกระดูกหุ้มรากฟันไปมาก และไม่สามารถรักษาด้วยการขูดหินปูนได้แล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดแทน เพื่อสร้างเส้นใยเหงือก เอ็นยึด และกระดูกเบ้าฟันที่แข็งแรง และให้ร่องเหงือกตื้นขึ้น

 

การพิจารณาตัวเลือกในการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคปริทันต์ หรือรำมะนาดด้วย กรณีที่การอักเสบรุนแรง และเนื้อเยื่อปริทันต์ถูกทำลายไปมาก และคุณหมอพิจารณาว่าการรักษาไม่สามารถฟื้นฟูเนื้อเยื่อปริทันต์ให้กลับไปอยู่ในสภาวะปกติได้ คุณอาจจำเป็นต้องถอนฟัน และเข้ารับการบูรณะฟันด้วยวิธีอื่นๆ เช่นการใส่รากฟันเทียม การทำสะพานฟัน หรือทำฟันปลอม

ระยะเวลาที่ใช้ในการโรครำมะนาด

ในความเป็นจริง​แล้วโรครำมะนาดใช้เวลารักษาไม่นานอย่างที่คิด แต่เป็นโรคที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องและต้องมีการติดตามผลตลอดทุกๆ 3-6 เดือน เพื่อประเมินความรุนแรงของโรค รวมถึงต้องดูแลการทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกต้อง​และสม่ำเสมอ​ด้วย

วิธี​ป้องกัน​การเกิดโรครำมะนา​ด

เราสามารถการป้องกันโรครำมะนา​ดได้โดย การแปรงฟันให้สะอาด ใช้อุปกรณ์ในการทำความสะอาดที่เหมาะสมกับลักษณะช่องปากเพิ่มเติม เพราะแปรงสีฟันเพียงอย่างเดียว มีข้อจำกัดไม่สามารถเข้าถึงซอกฟัน หรือร่องเหงือกได้ โดยอาจจะเลือกใช้ไหมขัดฟัน หรือแปรงซอกฟันเพิ่มเติม รวมถึงไปขูดหินปูนสม่ำเสมอตามช่วงเวลาที่คุณหมอแนะนำ

สรุป​

โรคปริทันต์ หรือโรครำมะนาดนี้มักจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป กว่าที่คนไข้จะรู้ตัว แบคทีเรียก็เข้าทำลายอวัยวะรอบๆ ตัวฟันจนอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียฟันได้ โดยอาการของโรคจะแบ่งเป็น 4 ระยะ ตามระดับตวามรุนแรงของอาการและความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถรักษาได้ด้วยวิธีการขูดหินปูน เกลารากฟัน หรือผ่าตัด และเมื่อรักษาหายแล้วคนไข้ก็จำเป็นต้องดูแลทำความสะอาดสุขภาพในช่องปากให้ดีเป็นประจำและตรวจเช็กสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันให้ฟันอยู่กับเราได้นานที่สุด 

 

หากคุณมีคำถามสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเรา และทำนัดเข้ามาปรึกษากับทันตแพทย์ของ Smile Seasons เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับขั้นตอน วิธีการรักษา รวมทั้งพูดคุยเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นก่อนจะตัดสินใจทำรากฟันเทียม ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

นัดพบทันตแพทย์จากคลินิกหมอฟัน Smile Seasons จาก 7 สาขาใกล้รถไฟฟ้า

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าพบคุณหมอที่คลินิกทันตกรรม Smile Seasons เพื่อตรวจสุขภาพฟันและรับบริการต่าง ๆ สามารถติดต่อได้ที่ช่องทางเหล่านี้

 

คลินิกหมอฟัน Smile Seasons มีให้คุณเลือกใช้บริการมากถึง 7 สาขา ได้แก่ สาขาสนามเป้า อนุสาวรีย์ชัย, สาขาอโศกทาวเวอร์, สาขาเมเจอร์รัชโยธิน, สาขาอ่อนนุช สาขาท่าพระ ทั้งยังมีอีก 2 สาขาใหม่ที่เตรียมเปิดให้บริการในปลายปีนี้ นั่นคือสาขาสีลม และสาขาราชพฤกษ์ (เซ็นทรัล Westville)

 

Facebook : smileseasons.dc

Line : @smileseasons.dc

E-mail : smileseasons.dc@gmail.com

Tel : 02-114-3274

ตรวจบทความโดย

Picture of ทพญ.จิตพิชญา วิมลไชยจิต

ทพญ.จิตพิชญา วิมลไชยจิต

"MSc(Clin) Dent in Periodontology, University of Manchester, UK (ปริญญาโท สาขาปริทันตวิทยา)
ทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่"

รีวิวจากคนไข้ของเรา

คุณหมอใจดี พี่ๆบริการดีมากค่ะ รีเทนเนอร์สวยมากกกก ชอบมากกก มีให้เลือกหลายแบบ 🥹🙏🏻🌷
Titapa Jandakhot Avatar
Titapa Jandakhot
07 Aug 2025
แฟนไปขูดหินปูน คลินิกสะอาด บริการดี สาขาเซ็นทรัลเวสต์วิลล์ พนักงานบริการพูดจาไพเราะ แนะนำค่ะ🫰🫰 แนะนำค่ะ
Poly Nong Avatar
Poly Nong
03 Aug 2025
คุณหมอ ใจดี มือเบามากก อุดฟันที่นี่ครั้งแรก ไม่เจ็บเลยคะ ทุกท่านพูดเพราะ ดูแลดี มากๆค่ะ
Prawnapa Jp Avatar
Prawnapa Jp
28 Jun 2025
วันนี้มาใช้บริการครั้งแรกค่ะ เพื่อนแนะนำมาแต่คนละสาขา พอดีมีสาขาใกล้บ้านเลยลองมาใช้บริการค่ะ 🙂 คุณหมอให้คำปรึกษาดี คุณหมอทำละเอียด และเข้าใจคนไข้ แอดมินก็ให้คำปรึกษาตอบคำถามเร็วมากค่ะ
Sasinipa Pin Avatar
Sasinipa Pin
12 Jun 2025

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง​

10 ข้อดีของการขูดหินปูนเป็นประจำ

10 ข้อดีของการขูดหินปูนเป็นประจำ ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

เลือกหัวข้อที่อยากอ่าน การขูดหินปูนอาจดูเหมือนขั้นตอนธรรมดาในการดูแลสุขภาพช่องปาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันคือหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ฟันและเหงือกของเรายังคงแข็งแรงและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไปอีกนาน ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงของโรคเหงือก

อ่านต่อ >
เหล็กจัดฟันมีกี่แบบ? สรุปครบจบ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อด้อย

เหล็กจัดฟันมีกี่แบบ? สรุปครบจบ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

เลือกหัวข้อที่อยากอ่าน แม้จะผ่านมานานแค่ไหน การจัดฟันแบบเหล็กยังคงเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน ด้วยเทคโนโลยีและวัสดุที่พัฒนาขึ้น ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นที่มาตอบโจทย์ทั้งเรื่องงบประมาณ

อ่านต่อ >

เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.

โทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: 02-144-3274

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน เราขอความยินยอมของคุณในการใช้คุกกี้ ดูรายละเอียด นโยบายความเป็นส่วนตัว หรือ คุกกี้