
เรื่องควรรู้ก่อน! “ตัดเหงือก” เจ็บไหม อันตรายหรือเปล่า ข้อดี-ข้อเสีย?
ยิ้มแล้วเห็นเหงือกเยอะทำให้ไม่มั่นใจ สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดเหงือก เมื่อพูดถึงรอยยิ้มที่สวยงามทุกคนมักจะสนใจที่รูปร่าง สีสัน และการเรียงตัวของฟัน อันที่จริงแล้วเหงือกก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน
ภาวะยิ้มเห็นเหงือก หรือ Gummy Smile คือภาวะที่เหงือกปกคลุมลงมาที่ฟันมากกว่าปกติ ทำให้ฟันดูสั้น และมีรูปร่างไม่สวยงาม ซึ่งสามารถแก้ไขด้วยการตัดเหงือก (Gingivectomy, Esthetic Crown Lengthening)
สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการตัดเหงือก ตัดเหงือกที่ไหนดี ผ่าตัดเหงือกราคาเท่าไหร่ เจ็บหรือเปล่า มีข้อเสียอะไรไหม พบกับคำตอบได้ในบทความนี้
ตัดเหงือก คืออะไร
รอยยิ้มที่สวยงามนั้นประกอบด้วยหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาที่แตกต่างกัน เช่น ฟันที่เรียงตัวผิดปกติ ก็แก้ไขด้วยการจัดฟัน ฟันที่มีสีสันไม่สวยงาม ก็สามารถฟอกฟันขาวได้ หรือฟันที่บิ่น แตกหัก ก็อาจพิจารณาทำ วีเนียร์ หรือ ครอบฟัน
การตัดเหงือก (Gingivectomy) คือ การศัลยกรรมเพื่อแก้ไขภาวะยิ้มแล้วเห็นเหงือกด้านบนมากผิดปกติ คนทั่วไปเมื่อยิ้มจะเห็นแถบเหงือกแค่ประมาณ 3-4 มม. หากมากกว่านั้นเราจะเรียกว่า Gummy Smile หรือ ภาวะยิ้มเห็นเหงือก ภาวะนี้ทำให้ฟันสั้น สัดส่วนรอยยิ้มไม่สวยงาม คนไข้อาจจะสูญเสียบุคลิกภาพ เพราะไม่กล้ายิ้ม ไม่มีความมั่นใจในการพูด ยิ้ม หรือหัวเราะ
ทำไมต้องตัดเหงือก & สาเหตุที่เหงือกเยอะ

- ทำร่วมกับการรักษาทันตกรรมอื่นๆ เช่น
- ก่อนบูรณะฟันด้วยการ อุดฟัน การทำครอบฟัน ในกรณีฟันแตก หรือฟันผุใต้ขอบเหงือก
- เพื่อให้สามารถใส่เครื่องมือกันน้ำลาย (Rubber Dam) ได้ในคนไข้ที่ต้อง รักษารากฟัน
- ปรับปรุงความสวยงามของรอยยิ้มด้วยการตัดเหงือก
- แก้ไขภาวะ Gummy Smile
- ลดความอูมของเหงือก เพื่อให้รูปปากสวยงาม และรักษาความสะอาดของช่องปากได้สะดวกขึ้น
- ทำร่วมกับวีเนียร์เพื่อลดขนาดของเหงือก และเพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการใส่วีเนียร์
- แก้ไขภาวะบาดเจ็บจากฟันคู่สบกัดลงมาโดนเหงือกซึ่งงอกมาคลุมฟันซี่ที่ขึ้นไม่เต็มซี่ เช่นฟันคุด
- รักษาโรคปริทันต์อักเสบในรายที่จำเป็น
สาเหตุที่ทำให้เหงือกเยอะ เกิดจากอะไร
- การขึ้นของฟัน – อาจเป็นได้ทั้งการขึ้นของฟันที่ไม่เต็มที่ (Altered Passive Eruption) ทำให้เห็นว่าตัวฟันสั้น เพราะยังมีเหงือกปกคลุมตัวฟันที่เหลือ หรือการขึ้นของฟันในตำแหน่งที่ยื่นยาวเกินไป (Dentoalveolar Extrusion) ทำให้เหงือกยื่นยาวตามมามากขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดเหงือก
- กระดูกขากรรไกรบนมีขนาดใหญ่ และยื่นย้อยลงมาเยอะผิดปกติ ส่วนหนึ่งเป็นจากพันธุกรรม เรียกอีกอย่างว่าภาวะ Vertical Maxillary Excess
- ผลข้างเคียงจากยา – ยาหลายชนิดสามารถทำให้เหงือกเจริญผิดปกติได้ ตัวอย่างเช่น ยากันชัก (Dilantin) ยากดภูมิคุ้มกัน (Cyclosporin) และยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด (Amlodipine, Nifedipine)
- ตำแหน่งของริมฝีปากขณะยิ้ม – ริมฝีปากในคนไข้บางคนอาจวางตัวสูงจากขอบเหงือกเกินปกติ อาจเกิดจากการทำงานของกล้ามเนื้อยกริมฝีปากที่มากเกินไป (Hypermobility Lip) หรือจากตัวริมฝีปากเองที่สั้นอยู่แล้ว (Short Lip)
วิธีตัดเหงือกมีทั้งหมดกี่วิธี
การตัดเหงือก แยกตามเครื่องมือที่ใช้ตัดของเหงือกมี 2 วิธี

1. ตัดเหงือกด้วยเลเซอร์ หรือ ระบบไฟฟ้า
เป็นวิธีตัดเหงือกที่ใช้เครื่องศัลยกรรมไฟฟ้าจี้บริเวณที่ต้องการตัด แทนการใช้ใบมีด แผลจะมีขนาดเล็ก และเลือดออกน้อยกว่า รวมทั้งไม่จำเป็นต้องเย็บแผล เจ็บน้อย แผลหายเร็ว อย่างไรก็ตามวิธีการนี้มักใช้ในเคสที่ไม่ค่อยซับซ้อน หรือไม่จำเป็นต้องเปิดเหงือกเพื่อกรอแต่งกระดูก

2. ตัดเหงือกด้วยใบมีด
เป็นวิธีดั้งเดิม และนิยมใช้ในการตัดเหงือก ซึ่งใช้ใบมีดขนาดต่างๆ ตามความเหมาะสม ตัดแต่งขอบเหงือกบริเวณที่ไม่ต้องการออก มักทำร่วมกับการเปิดเหงือก เพื่อกรอแต่งกระดูกเพิ่มเติม วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับเคสซับซ้อน มีโอกาสที่จะเลือดออกมากกว่า รวมทั้งต้องเย็บแผล และมาตัดไหมกับคุณหมอภายใน 1-2 สัปดาห์
ศัลยกรรมตัดเหงือก มีกี่ประเภท
1. การตัดเหงือกอย่างเดียว
หากปัญหาของคุณอยู่ที่ฟันสั้น แต่ไม่มีกระดูกใต้เหงือกอูมผิดปกติ หรือในกรณีที่ต้องการตัดเหงือกเพื่อรักษาโรคปริทันต์อักเสบที่ไม่จำเป็นต้องตัดแต่งกระดูกร่วมด้วย การตัดเหงือกชนิดนี้ สามารถใช้เลเซอร์ หรือใบมีดในการทำก็ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องกรอกระดูก
2. การตัดเหงือกควบคู่กับการกรอกระดูกฟัน
ผู้ป่วยบางรายจำเป็นต้องลดความสูง (ความอูม) ของกระดูกใต้เหงือกร่วมด้วย จึงจะได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม หรือในเคสที่เป็นโรคปริทันต์อักเสบรุนแรงที่ผ่านการรักษาเบื้องต้นมาแล้ว วิธีนี้ใช้เวลารักษาที่นานกว่า โดยการใช้เครื่อง electrosurgery และ/หรือ ใบมีดตัดแต่งขอบเหงือก จากนั้นเปิดแผ่นเหงือก (Flap) กรอแต่งกระดูกให้ต่ำลงและลดความอูมนูน เย็บแผล และปิดแผลด้วยวัสดุปิดแผล (Periodontal dressing) คุณต้องกลับมาตัดไหมกับคุณหมอหลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์
ทางเลือกในการรักษาภาวะยิ้มเห็นเหงือก (Gummy Smile)

การตัดเหงือก (Gingivectomy)
การจัดฟัน
ศัลยกรรมกระดูกขากรรไกร (Orthognathic Surgery)
ปรับเปลี่ยนยา
ศัลยกรรมปรับริมฝีปาก (Lip Repositioning)
BOTOX
การฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อยกริมฝีปากบนคลายตัวลง แต่จะไม่ได้ผลถาวรเหมือนการทำศัลยปรรมปรับริมฝีปาก (อยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ต้องมีการฉีดซ้ำ)
ข้อดีของการตัดเหงือก
สุขอนามัยช่องปากดีขึ้น
ความสวยงาม
การตัดแต่ง หรือปรับรูปร่างของเหงือก ทำให้ฟันดูยาวขึ้น รอยยิ้มมีความสวยงาม มีความสมมาตรมากขึ้น
ความมั่นใจ
เมื่อมีรอยยิ้มที่สวยงาม ความมั่นใจก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะขณะยิ้ม หัวเราะ หรือรับประทานอาหาร การตัดเหงือกจึงช่วยให้คุณมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นได้
ลดโอกาสการสูญเสียฟันจากโรคปริทันต์อักเสบ
กรณีเป็นโรคเหงือกอักเสบรุนแรงและปล่อยไว้ ไม่ได้รับการรักษา จะดำเนินโรคไปเป็นโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง ทำให้เนื้อเยื่อรอบๆ ฟันเสียหาย และนำไปสู่การสูญเสียฟัน การตัดเหงือกสามารถช่วยกำจัดเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบติดเชื้อออกไป เพื่อให้เหงือกที่มีสุขภาพดีถูกสร้างขึ้นมาแทนที่ ทำให้ฟันแข็งแรงมากขึ้น และอาจไม่จำเป็นต้องถอนฟันธรรมชาติของคุณ
ข้อจำกัดของการตัดเหงือก
- ความเจ็บปวด และความรู้สึกไม่สบาย – ในระหว่างและหลังการตัดเหงือก ผู้ป่วยอาจมีอาการปวด บวมได้ ซึ่งโดยปกติสามารถควบคุมได้ด้วยยาแก้ปวด และการประคบเย็นด้วย Cold pack หรือถุงน้ำแข็ง
- เลือดออก – คุณอาจพบเลือดออกได้เล็กน้อย และส่วนใหญ่คุณหมอสามารถควบคุมให้เลือดหยุดไหลได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณมีโรคประจำตัว หรือรับประทานยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด คุณควรแจ้งคุณหมอให้รับทราบก่อนเริ่มการผ่าตัด เพื่อจะได้มีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมก่อนเข้ารับการตัดเหงือก
- การติดเชื้อ – ความเสี่ยงสูงสุดของการตัดเหงือกคือ การติดเชื้อทั้งในเหงือกเอง หรือการติดเชื้อไปยังอวัยวะอื่นๆ ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อคือ ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ หรือเคยเปลี่ยนลิ้นหัวใจมาก่อน ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน หรือกินยากดภูมิคุ้มกันอยู่
- ระยะเวลาในการรักษา – หลังตัดเหงือก อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะหายสนิท ในช่วงเวลานี้ คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเหนียว แข็ง อาหารรสจัด ร้อนจัด หรือเย็นจัด ที่อาจทำให้เหงือกระคายเคืองได้
- เสียวฟันง่ายขึ้น – หลังตัดเหงือกแล้ว คุณอาจมีอาการเสียวฟันได้ง่าย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของเนื้อเยื่อรอบๆ เหงือก
- การกลับเป็นซ้ำของโรคเหงือก – แม้ว่าการตัดเหงือกจะช่วยกำจัดเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบติดเชื้อออกไป และทำให้สุขภาพโดยรวมของเหงือกดีขึ้น แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหงือกซ้ำได้หากไม่ได้รับการดูแล รักษาความสะอาดให้ดีพอ การตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ รวมทั้งการแปรงฟันร่วมกับใช้ไหมขัดฟันเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษาสุขภาพเหงือกที่ดี
ขั้นตอนเตรียมตัวก่อนตัดเหงือก
หากคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับการตัดเหงือก นี่คือขั้นตอนบางส่วนที่คุณสามารถทำได้ก่อนเข้ารับการรักษา

รับคำปรึกษาจากคุณหมอ

รักษาปัญหาทันตกรรมอื่นๆ

จัดเตรียมการเดินทาง

สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย

ตุนอาหารไว้ในบ้าน

วางแผนวันพัก

แปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ

หยุด หรือลดการสูบบุหรี่
วิธีการตัดเหงือก
- ตรวจสุขภาพช่องปากของคุณ – หากเหงือกมีการอักเสบ จะเลือดออกได้ง่ายและมากกว่าปกติ คุณอาจต้องทำการรักษาให้อาการดีขึ้นก่อนจึงจะสามารถตัดเหงือกได้ เพื่อให้คุณหมอทำงานได้สะดวกขึ้น ตัดแต่งระดับขอบเหงือกได้สวยกว่า แผลหายเร็วกว่า
- การเตรียมตัว – คุณหมอจะฉีดยาชาเฉพาะที่ตรงบริเวณที่ต้องการตัดเหงือก ในขั้นตอนนี้คุณอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่หลังจากนี้คุณจะรู้สึกสบายขึ้น
- การกำจัดเนื้อเยื่อ – คุณหมออาจใช้ใบมีดผ่าตัด เลเซอร์ หรืออุปกรณ์พิเศษ เพื่อกำจัด หรือเปลี่ยนรูปร่างของเหงือก โดยแผลจะอยู่ตามแนวของเหงือก และส่วนที่เกินออกมาจะถูกตัดออก
- การเปิดเหงือกและการกรอแต่งกระดูก – ในกรณีที่คุณมีสันกระดูกอูมมาก คุณหมอจะเปิดช่องที่เหงือกและกรอแต่งกระดูกใต้สันเหงือกบางส่วนออกไป
- การปิดแผล – เมื่อนำเนื้อเยื่อออกตามจำนวนที่ต้องการ และเหงือกมีรูปร่างตามที่ต้องการแล้ว แผลจะถูกปิด ในบางกรณีหากเลือดหยุดดี และแผลไม่ใหญ่มาก คุณอาจไม่ต้องเย็บแผลก็ได้ แต่ในกรณีที่มีการเปิดช่องกรอกระดูกร่วมด้วย หรือมีแผลใหญ่ คุณหมออาจพิจารณาเย็บแผล เพื่อป้องกันเลือดออก และช่วยในขั้นตอนการหายของแผลให้แผลหายเร็วขึ้น
- การพักฟื้น – หลังตัดเหงือกแล้ว คุณจะได้รับคำแนะนำในการดูแลตัวเองและการพักฟื้น ซึ่งอาจรวมถึงการรับประทานยาแก้ปวด หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง หรือกรอบ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- การติดตามผล – คุณจะต้องกลับมาติดตามอาการ และอาจตัดไหมออก (ในกรณีที่มีการเย็บแผล) เพื่อให้แน่ใจว่าเหงือกที่ได้รับการรักษาไปมีการฟื้นตัวที่ดี ที่รูปร่างที่สวยงามตรงตามแผน ปราศจากการอักเสบ หรือติดเชื้อ
ขั้นตอนการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

- รับประทานยาแก้ปวด – คุณหมอมักสั่งยาแก้ปวด เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen เพื่อช่วยจัดการกับความรู้สึกไม่สบายที่คุณอาจพบหลังตัดเหงือก
- หลีกเลี่ยงอาหารแข็งหรือกรอบ – อาหารอ่อน และรสไม่จัด เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป หรือโยเกิร์ต จะดีที่สุดในช่วง 2–3 วันแรกหลังตัดเหงือก หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งมาก หรือเผ็ดมากซึ่งอาจทำให้เหงือกระคายเคือง หรือเศษอาหารติดอยู่ในบริเวณที่ทำการตัดเหงือก
- ประคบเย็น – การประคบเย็นตรงบริเวณที่ได้รับการรักษา สามารถช่วยลดอาการบวม และอาการปวดได้
- บ้วนปากของคุณ – คุณหมออาจแนะนำให้คุณบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อช่วยลดอาการบวม และส่งเสริมให้แผลหายเร็วขึ้น
- แปรงและใช้ไหมขัดฟันเบาๆ – คุณสามารถแปรงฟันและใช้ใหมขัดฟันได้ตามปกติตรงบริเวณอื่นๆ แต่ควรงดแปรงหรือแปรงอย่างเบามือในบริเวณที่ได้รับการผ่าตัดใน 1 สัปดาห์แรก
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ – การสูบบุหรี่อาจทำให้กระบวนการหายของแผนช้าลง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนและหลังตัดเหงือก
- มาตามนัดคุณหมอ – คุณหมอมักนัดติดตามผลเพื่อประเมินกระบวนการรักษา และตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้
รีวิวตัดเหงือกที่ Smile Seasons

ตัดเหงือก ราคาเท่าไหร่
ผ่าตัดเหงือก (Gingivectomy/ Gingivoplasty) | 5,000-7,500 ต่อซี่ |
ตัดแต่งเหงือกด้วยเครื่องตัดเหงือกไฟฟ้า | 1,000-1,500 ต่อตำแหน่ง |
ผ่าตัดตกแต่งเหงือกเพื่อเพิ่มความยาวตัวฟัน แก้ไขภาวะเหงือกเยอะ (Gummy Smile) | 18,000-22,000 (มักแก้ไขพร้อมกัน 6-10 ซี่) |
ตัดเหงือกที่ไหนดี

หากคุณต้องการเลือกคลินิกสำหรับการตัดเหงือก คุณควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และผลการรักษาออกมาดีที่สุด เคล็ดลับในการเลือกคลินิกสำหรับการตัดเหงือกมีดังนี้
1. มองหาผู้เชี่ยวชาญ
2. พิจารณาชื่อเสียงของคลินิก
3. เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย
4. ลองเข้ามาปรึกษาคุณหมอ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตัดเหงือก

ตัดเหงือกตอนจัดฟันได้ไหม
การตัดเหงือกสามารถทำได้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจัดฟัน ขึ้นอยู่กับข้อบ่งชี้ในการรักษา หากฟันของคุณมีพื้นที่น้อยเกินไปสำหรับการติดเครื่องมือจัดฟัน (Bracket) คุณหมออาจพิจารณาตัดเหงือกให้คุณก่อนเริ่มจัดฟัน
ส่วนในกรณีอื่นๆ คุณหมอมักจะแนะนำให้ทำหลังจากจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากการจัดฟันจะทำให้ฟันเคลื่อนตำแหน่งไปเรื่อยๆ จึงเป็นการดีกว่าถ้าจะวางแผนจากตำแหน่งของฟันที่จัดฟันเสร็จแล้ว คุณหมอจะได้วางแผนการตัดเหงือกให้เหมาะสมกับรอยยิ้มของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ตัดเหงือกเจ็บไหม
การตัดเหงือกเป็นหัตถการทางศัลยกรรมชนิดหนึ่งที่ย่อมมีความเจ็บปวด หรือความไม่สบายเกิดขึ้นได้บ้าง อย่างไรก็ตาม คุณหมอจะฉีดยาชาให้ก่อนเริ่มการรักษา ฉะนั้นในระหว่างตัดเหงือก คุณจะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใดๆ หลังจากนั้นคุณหมอจะจ่ายยาให้คุณรับประทานเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลง
ตัดเหงือกอันตรายไหม
การตัดเหงือกถือเป็นการผ่าตัดเล็ก ที่ไม่ค่อยอันตราย ใช้การเตรียมตัวน้อย รวมทั้งมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงได้น้อย อย่างไรก็ตาม ปัญหาเช่น ความเจ็บปวดหลังผ่าตัด เลือดออก และการติดเชื้อยังสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ
ตัดเหงือกกี่วันหาย
คุณอาจรู้สึกเจ็บ และบวมอยู่ 2-3 วันหลังตัดเหงือก ส่วนแผลผ่าตัดนั้นใช้เวลา 7-10 วันก็สามารถหายเป็นปกติได้ อย่างไรก็ตามเหงือกอาจมีการเปลี่ยนเปลี่ยนรูปทรงได้อีกเล็กน้อยหลังจากแผลหายดี ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายเดือน
ตัดเหงือกไปแล้ว จะงอกกลับมาใหม่ไหม
การตัดเหงือกเป็นการรักษาที่ถาวร เหงือกที่ผ่านการผ่าตัดแล้วจะไม่งอกกลับขึ้นมาใหม่ หากดูแลสุขภาพช่องปากได้ดีพอ
- Gingivectomy: Who Might Need It & Why., Available from: https://my.clevelandclinic.org/health/treatments/24749-gingivectomy
- Gingivectomy: Procedure, pictures, and more., Available from: https://www.medicalnewstoday.com/articles/gingivectomy
- Gingivectomy: What to Expect, Recovery, Cost, and More., Available from: https://www.healthline.com/health/dental-and-oral-health/gingivectomy
- Gingivectomy Surgery: What You Need To Know., Available from: https://www.colgate.com/en-us/oral-health/gum-disease/gingivectomy-surgery-what-you-need-to-know
บทความโดย

ทพญ.เพียงใจ รัศมีโชคลาภ
MSc(Clin) Dent in Periodontology, University of Manchester, UK (ปริญญาโท สาขาปริทันตวิทยา)
ทันตแพทยศาสตร์ ม.เชียงใหม่
ตัดเหงือก กับ Smile Seasons
คุณเป็นคนหนึ่งที่ยิ้มแล้วเห็นเหงือกเยอะหรือเปล่า? ให้การตัดเหงือกกับ Smile Seasons ช่วยให้รอยยิ้มของคุณสวยงามแถมมีสุขภาพที่ดีขึ้น คุณจะได้รับดูแลโดยทันตแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญ คุณหมอจะกำจัดเหงือกส่วนเกินออกอย่างระมัดระวัง เพื่อเผยให้เห็นฟันของคุณมากขึ้น สร้างรอยยิ้มที่สมดุล สมมาตร และสวยงามมากยิ่งขึ้น ขั้นตอนนี้ง่าย รวดเร็ว และใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่นาน
อย่าปล่อยให้รอยยิ้มที่มีเหงือกปกคลุม รั้งคุณไว้อีกต่อไป ก้าวแรกสู่รอยยิ้มที่สดใสและมั่นใจยิ่งขึ้นเริ่มต้นวันนี้ด้วยการลงทะเบียนในแบบฟอร์มด้านล่าง เจ้าหน้าที่ของเราจะติดต่อกลับหาคุณเพื่อทำนัดคุณเข้ามาพูดคุย และปรึกษากับคุณหมอของเราได้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย – เรียนรู้เพิ่มเติมว่าการตัดเหงือกมีประโยชน์ต่อคุณอย่างไร การตัดเหงือกเหมาะสมกับคุณหรือเปล่า
ติดต่อเจ้าหน้าที่
อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา เจ้าหน้าที่ของเราพร้อมให้บริการตอบคำถาม ข้อสงสัย ประเมินค่าใช้จ่าย ทำนัดปรึกษากับคุณหมอ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงกรอก ชื่อนามสกุล เบอร์โทร และ Email เจ้าหน้าที่ของเราจะรีบติดต่อกลับไปให้ข้อมูลคุณโดยเร็วที่สุด
โปรโมชั่นอื่นๆ

จัดฟันคืออะไร มีกี่แบบ รวมข้อมูลการดัดฟันที่ต้องรู้
ดูแลโดยทีมคุณหมอที่มีประสบการณ์เปลี่ยนแปลงรอยยิ้มให้กับคนไข้หลายพันคน – โปรโมชั่นมีทั้งจัดฟันครั้งแรก กับรอบสอง ก้าวแรกแห่งรอยยิ้มที่สวยงามเริ่มต้นที่นี่คลิกเลย

รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่ คืออะไร จำเป็นต้องใส่ไหม
รีเทนเนอร์ ราคาเท่าไหร่ คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร มีกี่ประเภท จำเป็นต้องใส่ไหม ต้องใส่เป็นระยะเวลานานเท่าไหร่ ถ้าไม่ใส่จะเป็นยังไง

ฟอกสีฟัน ราคาเท่าไหร่ ฟอกฟันขาวได้จริงไหม มีข้อจำกัดอะไรบ้าง
ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว ราคาเท่าไหร่ ช่วยให้ฟันขาวได้จริงไหม ฟันขาวขึ้นได้ขนาดไหน มีแบบไหนให้เลือกบ้าง

จัดฟันราคาเท่าไหร่ มีแบบไหนบ้าง รวมรายละเอียดค่าใช้จ่ายในทุกขั้นตอน
จัดฟันราคาเท่าไหร่ มีประเภทไหนบ้าง รายละเอียดค่าใช้จ่ายแบบแจกแจงเป็นอย่างไร แบ่งออกเป็นทั้งหมดกี่ช่วง

รีเทนเนอร์ (retainer) คืออะไร รวมความรู้เกี่ยวกับรีเทนเนอร์ที่ทุกคนต้องรู้ จากทันตแพทย์
รีเทนเนอร์ ราคาพิเศษ 2,999 สีเยอะ ลายเพียบ หรือจะออกแบบเองก็ได้ ใส่ Glitter เลือกสียางด้านหน้าได้ มีทั้งแบบเหล็ก และแบบใส – ดูแลโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อ่านรายละเอียดที่นี่

ทำฟันเบิกประกันสังคมกับเรา ลุ้นรับ iPhone 14 PRO!
ใกล้สิ้นปีแล้ว Smile Seasons ชวนคุณมาขูดหินปูน เบิกประกันสังคมแบบไม่ต้องสำรองจ่าย แถมลุ้นรับ iPhone 14 PRO – หมดเขต 30 พ.ย. 65 – อย่ารอช้า! จองคิวคุณหมอได้เลย