ฟันผุ จุดเริ่มต้นของหลายปัญหาทันตกรรม จะรักษาอย่างไรดี
ฟันผุ โรคทางทันตกรรมที่ทุกคนรู้จักดี ฟันผุดูเหมือนจะเป็นปัญหาเล็กน้อย และอาจไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติในช่วงแรก แต่หากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็ว คุณหมอรับรองว่าฟันผุจะลุกลาม และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่นๆ ตามมาให้คุณต้องปวดหัวอย่างแน่นอน วันนี้คุณหมอจะพาทุกคนมาทำความรู้จักฟันผุกันแบบทะลุปรุโปร่ง ทั้งสาเหตุ การแบ่งระยะความรุนแรง การรักษา และค่าใช้จ่าย พร้อมแล้วลุยกันเลย
ฟันผุคืออะไร
ฟันผุ (Dental caries, Tooth decay, Cavities) เป็นปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบได้บ่อย โดยมีลักษณะของการสูญเสียแร่ธาตุในชั้นเคลือบฟัน และมีการก่อตัวของช่องว่าง หรือโพรงในฟัน สาเหตุหลักของฟันผุมาจากแบคทีเรียก่อโรคที่อยู่ในช่องปาก บวกกับเศษอาหารโดยเฉพาะพวกแป้ง คาร์โบไฮเดรต ก่อให้เกิดของเสียที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งสามารถกัดกร่อนชั้นเคลือบฟันให้สึกได้ การคุณปล่อยฟันผุทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา ฟันผุมีขนาดใหญ่ขึ้น และลึกมากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ ตามมา เช่น ปวดฟัน การติดเชื้อ จนถึงอาจสูญเสียฟันได้
การรักษาสุขอนามัยช่องปากที่ดี การรับประทานอาหารที่สมดุล และการเข้ารับการตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุก 6 เดือนถือเป็นการป้องกันฟันผุที่ดีที่สุด
สาเหตุของฟันผุ
1. แบคทีเรียก่อโรคในช่องปาก
- แบคทีเรียชื่อยาวๆ อย่าง Streptococcus Mutans เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุ
- แบคทีเรียขนิดนี้เจริญเติบโตจาก เศษอาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรต (แป้ง และน้ำตาล) สูงๆ
- สามารถทำปฎิกริยากับอาหาร แล้วสร้างสารที่เป็นกรดมาทำร้ายเคลือบฟันได้
2. ปัจจัยจากอาหาร
- อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง (อาหารจำพวกแป้ง และนำ้ตาล) จะยิ่งทำให้คุณเสี่ยงต่อฟันผุมากขึ้น เนื่องจากถูกย่อยเป็นกรดได้ง่าย ยิ่งคุณรับประทานบ่อย หรือในปริมาณที่มาก ความเสี่ยงก็จะมากยิ่งขึ้น
- เครื่องดื่ม หรืออาหารที่เป็นกรดอยู่แล้วก็สามารถทำร้ายชั้นเคลือบฟันได้ ตัวอย่างคือ น้ำมะนาว มะม่วงหาวมะนาวโห่ น้ำอัดลม อาหารที่มีรสเปรี้ยวมากๆ
3. คราบจุลินทรีย์
- คราบจุลินทรีย์ หรือ Dental Plaque มีลักษณะเป็นฟิลม์เหนียว บาง เกาะอยู่บนชั้นเคลือบฟัน
- เกิดจากส่วนผสมของเศษอาหาร ซากของแบคทีเรีย และน้ำลาย
- เป็นแหล่งที่แบคทีเรียก่อโรคสามารถเจริญเติบโตได้ดี และยังกำจัดออกได้ยากอีกด้วย
4. การสูญเสียแร่ธาตุของชั้นเคลือบฟัน
- ชั้นเคลือบฟันเต็มไปด้วยแร่ธาตุ ถือเป็นหนึ่งในอวัยวะที่มีความแข็งแรงมากที่สุดในร่างกายของมนุษย์
- อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุสำคัญๆ สามารถถูกสลายออกมาได้ในสภาวะที่เป็นกรด หรือที่เราเรียกว่า demineralization ซึ่งกรดในช่องปากสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยของฟันผุในข้ออื่นๆ ที่กล่าวมา
- เมื่อสูญเสียแร่ธาตไป โครงสร้างของชั้นเคลือบฟันก็จะอ่อนแอลง และง่ายต่อการผุกร่อนมากขึ้น
5. บทบาทของน้ำลาย
- น้ำลายเป็นหนึ่งกลไกของร่างกายที่ช่วยป้องกันฟันผุได้ตามธรรมชาติ
- น้ำลายช่วยปรับสภาวะความเป็นกรดในช่องปากให้กลับสู่สมดุล ช่วยการดูดซึมแร่ธาตุกลับเข้าไปยังชั้นเคลือบฟัน
- โรคหรือภาวะที่ทำให้ปริมาณน้ำลายลดลงนั้นมีมากมาย ยกเว้นอย่างเช่น
- การรับประทานยาบางชนิด (ยาจิตเวช, ยาลดความดัน, ยาแก้แพ้)
- ดื่มน้ำน้อย
- โรคทางระบบ เช่น เบาหวาน, ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้นกันตนเอง, การฉายแสงในบริเวณใบหน้า ลำคอ ช่องปาก
- การสูบบุหรี่ ทั้งแบบธรรมดา และแบบไฟฟ้า
- อื่นๆ เช่น อายุที่มากขึ้น ความเครียด ประจำเดือน
6. รักษาสุขอนามัยช่องปากไม่ดี
- ไม่เพียงพอ – คุณควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนนอน อย่างไรก็ตามหากคุณทานขนมที่หวานมากๆ หรืออาหารที่เหนียวๆ การแปรงฟันเพิ่มก็จะช่วยกำจัดเศษอาหาร และแบคทีเรีย สามารถลดโอกาสเกิดฟันผุลงได้
- ไม่ถูกวิธี – คุณควรเอาใจใส่ เทคนิคในการแปรงฟัน รวมถึงการเลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดช่องปากให้เหมาะสม ฟันผุอาจเกิดขึ้นได้แม้ว่าคุณจะแปรงฟันบ่อยๆ หากมีปัจจัยดังต่อไปนี้
- การแปรงฟันที่แรงเกินไป การแปรงไม่ทั่วถึง
- เลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง หรือมีขนาดไม่เหมาะสมกับช่องปาก (เล็กไป/ใหญ่ไป)
- ไม่ตรวจสอบให้ดีว่ายาสีฟันที่ใช้เป็นประจำมีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมหรือไม่
- ไม่สามารถทำได้ – เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น พาร์กินสัน Stroke อัลไซเมอร์ อาจไม่สามารถรักษาสุขภาพช่องปากด้วยตัวเองได้ กรณีนี้ควรได้รับการดูแลโดยผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล
7. ปัจจัยอื่นๆ
- งานวิจัยพบว่า บุคคลในกลุ่มที่มีรายได้น้อย หรือการศึกษาต่ำมีโอกาสเสี่ยงต่อฟันผุที่สูงกว่า
- โชคดีที่น้ำดื่ม และน้ำประปาในประเทศไทยมีฟลูออไรด์ซึ่งสามารถช่วยป้องกันฟันผุ ในระดับที่ปลอดภัยผสมอยู่ อย่างไรก็ตามในบางประเทศ หรือบางพื้นที่อาจจะไม่เป็นเช่นนั้น
อาการของฟันผุ
ฟันผุที่มีขนาด และความลึกที่มากน้อยต่างกัน ย่อมก่อให้เกิดอาการที่ไม่เหมือนกัน ฟันผุอาจไม่มีอาการอะไรเลย จนถึงปวดมากจนจำเป็นต้องถอน ในบางกรณีที่พบได้ไม่บ่อย ฟันผุอาจลุกลามไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
เสียวฟัน
โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เย็นจัด
ฟันเปลี่ยนสี
บริเวณที่เกิดฟันผุอาจมีสีที่เปลี่ยนไปได้เช่น สีขาว สีน้ำตาลหรือดำ ซึ่งเป็นผลมาจากการสูญเสียแร่ธาตุในชั้นเคลือบฟัน
ปวดฟัน
โรคทางทันตกรรมหลายอย่างสามารถทำให้เกิดอาการปวดฟันได้ รวมถึงฟันผุด้วย และมักเป็นอาการที่พาคนไข้มาพบคุณหมอ อย่างไรก็ตาม ฟันผุที่มีอาการปวดมักเป็นฟันผุที่มีขนาดใหญ่ หรือลึกค่อนข้างมาก คุณจึงไม่ควรรอให้มีอาการปวดก่อน จึงค่อยมาพบทันตแพทย์
ฟันเป็นโพรง หรือรู
แน่นอนว่าเมื่อฟันผุลึกมากชึ้น คุณสามารถมองเห็นรูที่ฟันได้ชัดเจน
ปวดขณะเคี้ยว
เมื่อฟันผุลึกถึงเนื้อฟัน หรือโพรงประสาทฟัน ที่มีเส้นประสาทมาเลี้ยง คุณอาจมีอาการปวดขณะเคี้ยว ซึ่งเป็นตอนที่ระบบประสาทโดนกระตุ้นด้วยแรงกดดัน
การอักเสบ ติดเชื้อ
มักพบในฟันผุที่เป็นรุนแรง แบคทีเรียอาจก่อให้เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อไปนอกเหนือตัวฟันได้ ทำให้เกิด เหงือกบวม เป็นหนอง เลือดออกได้ง่าย
อาการอื่นๆ
กลิ่นปาก การรับรสผิดปกติ
ความรุนแรงของฟันผุ
ฟันผุมักถูกแบ่งความรุนแรงเป็น 3 ระดับ โดยขึ้นอยู่กับความลึก และขนาด ซึ่งจะมีความสำคัญต่อตัวเลือกในการักษาฟันผุด้วย คุรหมออยากให้คุณรู้ว่าการรักษาฟันผุในระยะต้นมีความง่าย และเสียค่าใข้จ่ายน้อยกว่าการรักษาเมื่อฟันผุลุกลามไปใหญ่โต การรักษาความสะอาดในช่องปาก รวมถึงการตรวจสุขภาพช่องปากทุก 6 เดือนจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ
1. ระดับเริ่มต้น
- ในระยะแรก กรดที่ถูกผลิตมาจากแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ จะสลายแร่ธาตุจากในชั้นเคลือบฟันออกมา
- ฟันผุในระยะนี้หากดูแลดีๆ ก็สามารถหายได้โดยไม่ต้องได้รับการอุดฟัน โดยคุณจะต้องหมั่นดูแลความสะอาดในช่องปากเป็นอย่างดี รวมถึงจำเป็นต้องใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์
2. ระดับปานกลาง
- เมื่อฟันผุในระยะเริ่มต้นไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ฟันจะผุลึกลงไปยังชั้นเนื้อฟัน
- ในระยะนี้คุณอาจเริ่มต้นมีอาการต่างๆ เช่น กลิ่นปาก, เสียวฟัน, ปวดฟัน
- เมื่อฟันผุถึงเนื้อฟัน จะไม่สามารถหายเองได้ คุณหมอจำเป็นต้องกรอฟันที่ผุออก และอุดฟัน
3. ระดับรุนแรง
- เมื่อฟันผุถึงชั้นโพรงประสาทฟัน จะถูกจัดอยู่ในระดับรุนแรง
- เนื่องจากเป็นชั้นในสุดของฟัน และเป็นเนื้อเยื่อที่ยังมีชีวิต เมื่อถูกทำลาย คุณอาจมีอาการปวดฟันมากๆ มีเหงือกบวม อักเสบ เป็นหนอง หรือฟอร์มตัวเป็นโพรงฝีได้
- เมื่อฟันผุถึงระดับนี้ คุณหมอจะต้องประเมินว่าสามารถเก็บฟันธรรมชาติไว้ได้ด้วยการรักษารากฟันหรือไม่ หากโครงสร้างของฟันถูกทำลายไปมาก และไม่คุ้มค่าที่จะบูรณะ คุณอาจต้องถอนฟันออก และเข้ารับการทดแทนฟันด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การทำรากฟันเทียม การทำสะพานฟัน หรือฟันปลอม
การรักษาฟันผุ
อย่างที่กล่าวมาว่า การรักษาฟันผุนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของฟันผุ นี่คือตัวเลือกทั้งหมดในการรักษาฟันผุ
การให้ฟลูออไรด์ และติดตามอาการ
- มักใช้ในฟันผุระยะเริ่มแรก ที่มีแค่ฟันเปลี่ยนสีจากการสูญเสียแร่ธาตุในชั้นเคลือบฟัน ซึ่งการใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์จะช่วยให้เกิดการดูดซึมแร่ธาตุกลับคืนเข้าสู่ชั้นีเคลือบฟันได้
- คุณจำเป็นต้องรักษาความสะอาดในช่องปากร่วมด้วยถึงจะได้ผล
- การติดตามผลการรักษาเป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากไม่สามารถการันตีได้ว่าการใช้ฟลูออไรด์เพียงอย่างเดียวจะสามารถหยุดยั้งฟันผุได้ คุณควรมาตรวจซ้ำตามที่คุณหมอนัด
การอุดฟัน
- เป็นตัวเลือกการรักษาฟันผุที่คุณหมอใช้บ่อยที่สุด มักทำในฟันผุที่ลึกถึงชั้นเนื้อฟัน
- เนื้อฟันที่ผุ หรือมีรอยต่อจะถูกกรอออก และอุดด้วยวัสดุอุดชนิดต่างๆ เช่น Amalgam หรือ Composite Resin ที่มีสีเหมือนฟันธรรมชาติ
- ฟันของคนเรามีหลายด้าน ฟันที่ผุหลายด้าน หรือผุในด้านที่อยู่ลึก และอุดยาก ย่อมมีความซับซ้อนในการรักษา ทำให้มีค่าใช้จ่าย และใช้เวลาในการรักษาที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
การรักษารากฟัน
- ฟันผุระดับรุนแรง ที่มีการอักเสบ ติดเชื้อของโพรงประสาทฟันร่วมด้วย จะไม่สามารถรักษาด้วยการอุดฟันอย่างเดียวได้ เพราะไม่สามารถกำจัดเนื้อเยื่อที่มีการอักเสบติดเชื้อออกไปได้หมด
- การรักษารากฟัน จำเป็นต้องกรอเปิดชั้นครอบฟัน และเนื้อฟันออก เมื่อเนื้อเยื่อที่อักเสบติดเชื้อถูกกำจัดออกไปหมด คุณหมอจึงจะบูรณะฟันด้วยการทำครอบฟันด้านบน
- เมื่อรักษารากฟัน คุณต้องมาพบคุณหมอหลายครั้ง เป็นการรักษาที่มีความซับซ้อน และควรต้องทำโดยคุณหมอที่เป็นทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรักษารากฟัน (Endodontist)
การถอนฟัน
- กรณีสูญเสียเนื้อฟันไปเป็นจำนวนมาก หรือโครงสร้างของฟันถูกทำลายจนไม่สามารถบูรณะได้ การถอนฟันก็ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา
- หลังจากถอนฟันคุณมีทางเลือกในการทดแทนฟันหลายวิธี เช่น การทำรากฟันเทียม สะพานฟัน หรือฟันปลอม
การเคลือบหลุมร่องฟัน
- หลุมร่องฟันที่ลึกอาจทำให้คุณไม่สามารถทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดการเคลือบหลุมร่องฟันขึ้น โดยเป็นการรักษาเชิงป้องกัน มักนิยมทำในเด็ก แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถทำได้เช่นกัน
การป้องกันฟันผุ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจจะเห็นแล้วว่าฟันผุที่ไม่ได้รับการรักษานั้นสามารถนำไปสู่ปัญหาทางทันตกรรมอื่นๆ ตามมาได้ การป้องกันฟันผุจึงเป็นสิ่งที่คุณหมออยากให้คุณทำความเข้าใจและปฎิบัติตาม หากอยากห่างไกลฟันผุ และมีสุขภาพฟันที่ดี มีรอยยิ้มที่สวยงาม นี่คือคำแนะนำของคุณหมอ
แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ และถูกวิธี
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งตอนเช้า และก่อนนอน หากรับประทานอาหาร หรือขนมที่หวาน หรือมีน้ำตาลมาก คุณควรแปรงฟันเพิ่มเติม อย่าลืมเลือกแปรงสีฟันที่มีขนาดเหมาะสม และมีขนแปรงที่นุ่ม ไม่ทำอันตรายต่อเหงือก ในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัวซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการแปรงฟัน คุณควรเข้ามามีส่วนช่วย กำกับควบคุมการแปรงฟันด้วยเสมอ
การใช้ไหมขัดฟันก่อนนอน
ไหมขัดฟันไม่ใช่ Option เสริม แต่เป็นหนึ่งในสิ่งจำเป็นมากๆ ในการดูแลสุขอนามัยช่องปากให้ดี ปลอดจากฟันผุ เพราะเศษอาหาร และคราบจุลินทรีย์ ในบางตำแหน่ง โดยเฉพาะใต้เหงือกไม่สามารถถูกกำจัดได้ด้วยการแปรงฟันธรรมดา
น้ำยาบ้วนปาก
น้ำยาบ้วนปาก โดยเฉพาะที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์สามารถช่วยลดโอกาสการเกิดฟันผุได้ อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำยาบ้วนปากไม่สามารถทดแทนการทำความสะอาดด้วยการแปรงฟัน และการใช้ไหมขัดฟันได้ ฉะนั้นถึงแม้จะใช้น้ำยาบ้วนปาก แต่คุณก็ยังต้องแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันอยู่
ทานอาหารให้เหมาะสม
เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำร้ายชั้นเคลือบฟัน เช่น อาหารเปรี้ยว รสจัดที่มีความเป็นกรดสูง, น้ำอัดลม, ขนม หรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและแป้งสูง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อย่าลืมดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ภาวะขาดน้ำ จะทำให้ลดปริมาณของน้ำลายลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันฟันผุ
ลด เลิกบุหรี่
สารในบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ธรรมดา หรือบุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณโดยรวม
พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำจะทำให้คุณหมอสามารถมองเห็นฟันผุตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และรีบจัดการรักษา การได้เคลือบฟลูออไรด์ หรือเคลือบหลุมร่องฟันก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ฟันของคุณห่างไกลจากฟันผุ
สรุปเกี่ยวกับฟันผุ
ฟันผุเป็นหนึ่งในปัญหาทันตกรรมที่พบได้บ่อยมาก มีสาเหตุหลักมาจากแบคทีเรีย ทำปฎิกิริยากับคาร์โบไฮเดตรที่พบในขนมหวาน แป้ง หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูงๆ จนเกิดกรดมาทำร้ายชั้นเคลือบฟัน ฟันผุในระยะแรกอาจจะไม่มีอาการ สามารถรักษาได้ด้วยการเคลือบฟลูออไรด์ และการรักษาความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟัน ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน ฟันที่ผุลึกมากขึ้นอาจต้องได้รับการอุดฟัน การรักษารากฟัน จนถึงการถอนฟัน
การป้องกันฟันผุถือเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุด สามารถทำได้ด้วยการดูแลสุขอนามัยในช่องปาก เลือกรับประทานอาหารให้สมดุล หลีกเลี่ยงขนมหวาน อาหารรสเปรี้ยวจัด ดื่มน้ำระหว่างวันให้เพียงพอ เลิกบุหรี่ และมาพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน
กังวลเกี่ยวกับฟันผุ? ปรึกษาคุณหมอเลย!
หากคุณกำลังหาคลินิกทันตกรรมมาดูแลตัวเอง และครอบครัว Smile Seasons มีคุณหมอที่เอาใจใส่พร้อมจะดูแลสุขภาพช่องปาก และให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ ให้คุณมีรอยยิ้มสวย และสุขภาพดีกันทั้งบ้าน คุณสามารถติดต่อสอบถามหรือทำนัดกับเจ้าหน้าที่ของเราได้ที่
Facebook : smileseasons.dc
Line : @smileseasons.dc
E-mail : smileseasons.dc@gmail.com
Tel : 02-114-3274
บทความโดย
ทพ.ธนิตย์ วนิชนพรัตน์
รีวิวจากคนไข้ของเรา
บทความอื่นๆ
ฟันผุ จุดเริ่มต้นของหลายปัญหาทันตกรรม จะรักษาอย่างไรดี
ฟันผุ เรื่องเล็กที่ไม่เล็กอย่างที่คิด คุณหมอพาคุณมาเรียนรู้ทุกซอกทุกมุมเกี่ยวกับฟันผุ ตั้งแต่ สาเหตุ อาการ วิธีป้องกัน ตัวเลือกการรักษา รวมถึงค่าใช้จ่าย
พิมพ์ปากที่บ้าน เชื่อมคุณกับคลินิกทันตกรรมด้วยเทคโนโลยี
อยากยิ้มสวย แต่ก็ขี้เกียจฝ่ารถติด ไปนั่งรอที่คลินิก จะดีกว่าไหม? ถ้าคุณสามารถจัดฟันใส ทำรีเทนเนอร์ หรือฟอกสีฟัน ได้จากที่บ้านโดยไม่ต้องเสียเวลามาที่คลินิก
เคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟันคืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ จำเป็นไหม
อยากจัดฟันทำไมต้องเคลียร์ช่องปากก่อน จัดฟันไปก่อนได้ไหม มีขั้นตอนและค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการเคลียร์ช่องปาก การรักษาที่คุณต้องทำก่อนเริ่มจัดฟัน
เสียวฟัน เป็นอาการของโรคใดได้บ้าง มีวิธีป้องกัน และรักษาได้อย่างไร
เสียวฟันเป็นหนึ่งในอาการเริ่มต้นของโรคทางทันตกรรมมากมาย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เสียวฟัน จะแปรงฟันหรือกินอะไรก็ไม่สะดวกเพราะปวดจี๊ดอยู่ตลอด บทความนี้เขียนมาเพื่อคุณ
ฟันแตก อุดฟันได้ไหม ต้องรักษารากฟันหรือเปล่า ค่าใช้จ่ายแพงไหม อ่านเลย
ฟันแตกเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลทั้งในด้านรูปลักษณ์ และสุขภาพในช่องปาก แต่จะต้องรักษาอย่างไร ค่าใช้จ่ายแพงไหม พบคำตอบได้ในบทความนี้
ฟันตาย ฟันเสียเกิดจากอะไร อันตรายไหม แก้ไขยังไงดีโดยไม่ต้องถอน
ฟันตาย เป็นภาวะอันตรายภายในช่องปากที่ไม่ควรละเลย มาดูกันว่า ฟันตายเกิดจากอะไร อัตรายแค่ไหม และจะแก้ไขด้วยวิธีไหนได้บ้าง
