เมื่อไหร่ที่ควรต้องผ่าฟันคุด

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการผ่าฟันคุดคือในวัยรุ่นตอนปลาย ซึ่งมีอายุประมาณ 17-20 ปี และการจัดการกับฟันคุดที่ดีและง่ายที่สุดคือตอนที่ไม่มีการอักเสบ ติดเชื้อเกิดขึ้น เนื่องจากฟันคุดสามารถก่อให้เกิดปัญหาทางทันตกรรมตามมาได้  และชาวเอเชียมีขากรรไกรที่เล็กกว่าทำให้มีโอกาสสูงที่ฟันคุดจะก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นในอนาคต ทันตแพทย์จึงแนะนำให้คุณจัดการกับฟันคุดเสียตั้งแต่เนิ่นๆ ในขณะที่ยังไม่มีอาการปวด

การรักษาฟันคุดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยมีตำแหน่ง และการขึ้นของฟันคุดเป็นหลัก ฟันคุดที่โผล่พ้นเหงือกมาทั้งหมด หรือบางส่วน สามารถถอนฟันคุดได้ ส่วนฟันคุดที่ไม่โผล่พ้นเหงือก หรือพ้นมาเพียงเล็กน้อย มักจำเป็นต้องเปิดเหงือก เพื่อถอนออก หรือที่เรามักเรียกว่า ผ่าฟันคุด ในขณะที่ฟันคุดซึ่งเป็นฟันฝังอยู่ในตำแหน่งใกล้กับโพรงไซนัส หรืออยู่ลึกลงไปในกระดูกขากรรไกรนั้น จะมีความยาก และซับซ้อนในการผ่าตัดสูงขึ้น คุณควรได้รับการดูแลจากทันตแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม

ความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงจากการถอน หรือผ่าฟันคุด รวมถึงเวลา และค่าใช้จ่ายในการรักษาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของตำแหน่งฟันคุด

ถ้าไม่ผ่าฟันคุดจะเกิดผลเสียอะไรบ้าง?

เมื่อตรวจพบว่าตัวเองมีฟันคุดเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา เพื่อให้สุขภาพช่องปากกลับมาเป็นปกติให้เร็วที่สุด เพราะหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษา อาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ ดังนี้

1.ความเจ็บปวดและการอักเสบ 

ฟันคุดที่งอกขึ้นมาแล้วชนกับฟันซี่อื่นๆ หรือฝังตัวอยู่ภายในเหงือกและใต้แนวกระดูกจะทำให้เกิดแรงกดต่อฟันและเหงือก​โดยรอบ จนทำให้เกิดอาการปวด อักเสบ และติดเชื้อได้

2.ฟันซี่อื่นอาจได้รับความเสียหาย​

แรงดันตัวของฟันคุดที่พยายามดันขึ้นมาอาจส่งผลให้กระดูกรอบรากฟัน หรือรากฟันซี่ข้างเคียงถูกทำลาย ​จนนำไปสู่ฟันผุ การติดเชื้อในคลองรากฟัน และแม้กระทั่งการสูญเสียฟันได้ในที่สุด

3.การเกิดซีสต์และเนื้องอก

เมื่อปล่อยฟันคุดไว้โดยไม่รับการรักษา ก็มีโอกาส​ที่จะทำให้​เกิดถุงน้ำหรือซีสต์ (Cyst) หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่มากขึ้นก็สามารถทำลายเนื้อเยื่อ และอวัยวะบริเวณข้างเคียงได้