สาเหตุของอาการเสียวฟัน

อาการเสียวฟันนั้นสามารถ​เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และสามารถ​เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศ​ทุก​วัย เราลองมาดูกันว่าอาการเสียวจี๊ด ๆ แปล๊บ ๆ ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุ​มาจาก​อะไรบ้าง

โรคปริทันต์ และเหงือกร่น

โรคเหงือกและอาการเหงือกร่นนั้นจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณ​รอบเหงือกร่นเข้าหารากฟัน ทำให้เนื้อฟันและรากฟันสัมผัสกับสภาวะแวดล้อมได้ง่ายขึ้น  จนอาจเกิดอาการเสียวฟันและปวดฟันตามมาได้

อ่านสาระน่ารู้เกี่ยวกับโรคปริทันต์: รำมะนาด หรือโรคปริทันต์ คืออะไร?

การแปรงฟันที่ไม่เหมาะสม

การแปรงฟันในลักษณะ​ที่ไม่เหมาะสม​ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟันผิดวิธี แปรงฟันแรงเกินไป ใช้เวลาในการแปรงฟันนานจนเกินไป​ หรือเลือกใช้แปรงสีฟันที่มีขนที่แข็งเกินไป พฤติกรรม​เหล่านี้ล้วนแต่​ส่งผลให้เหงือกมีแนวโน้ม​เกิดการอักเสบและทำให้ฟันสึกเพิ่มขึ้นได้

การอุดฟัน 

อาการเสียวฟันอาจเกิดขึ้นได้หลังจากอุดฟัน ถือเป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตามอาการควรจะค่อยๆ หายไปในเวลา 24-48 ชั่วโมง หากคุณมีอาการปวด หรือเสียวฟันมากขึ้น คุณควรเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมใหม่อีกครั้ง สาเหตุของอาการเสียวฟันหลังอุดฟันได้แก่

• การระคายเคืองของเส้นประสาท – ก่อนที่จะอุดฟัน คุณหมอจำเป็นต้องกรอกำจัดฟันที่ผุออกไป ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ไประคายเคืองเส้นประสาทในเนื้อฟัน และในโพรงประสาทฟัน  ฟันผุที่มีขนาดใหญ่ ผุหลายด้าน หรือผุลึกเข้าใกล้โพรงประสาทฟัน ก็จะมีความเสี่ยงของอาการเสียวฟัน หลังอุดฟันได้มากยิ่งขึ้น
• วัสดุอุด -วัสดุที่ใช้ในการอุดฟันสามารถรบกวนการทำงานของเส้นประสาทในฟันได้เช่นกัน โดยวัสดุที่ใช้อุดแต่ละชนิดก็จะมีความเสี่ยงต่ออาการเสียวฟันไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้ววัสดุอุดสีเหมือนฟัน (Composite) มักทำให้เสียวฟันได้มากกว่า วัสดุอุดแบบโลหะ (Amalgum)
• การสบฟัน – ฟันที่สบไม่พอดีกับฟันคู่สบ โดยเฉพาะฟันสบสูง อาจจะทำให้คุณมีอาการเสียวฟันขณะเคี้ยวอาหารได้ การรักษาคือการกรอแก้ไขความสูงและรูปร่างของวัสดุอุดเพิ่มเติม เพื่อให้พอดีกับฟันคู่สบ

กรดจากอาหาร หรือเครื่องดื่ม

การทานอาหาร ผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่มีความเป็นกรดสูง เช่น เลม่อน สับปะรด​ มะม่วงหาวมะนาวโห่ หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของโซดาเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวฟันเริ่มบางลง และค่อย ๆ สึกกร่อน จนเกิดอาการเสียวฟันขั้นในที่สุด